Wed, 8 May 2024 06:37:00
วันที่ 7 พ.ค.2567 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานายเปิ้ล อินทราจักร์ ปู่ และนางหอม สายสด สัญชาติลาว ย่าของน้องมาร์ติน อายุ 9 เดือน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางนา หลังน้องมาร์ตินถูกชายปริศนา ลักษณะผมยาว ใส่รองเท้าบูท อุ้มหายไปจากบริเวณบ้านพักบริเวณท่าน้ำบางนา วัดบางนานอก เขตบางนา กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 7 พ.ค. ก่อนจะมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่าชายที่มีบุคลิกคล้ายผู้ต้องสงสัยอุ้มเด็กเดินผ่านบริเวณสี่แยกบางนา
ผู้ก่อเหตุพาเด็กชายขึ้นรถโดยสารไประยอง
นายเอกภพ เปิดเผยว่า หลังจากพูดคุยกับปู่และย่าของน้องมาร์ติน ทราบว่าผู้ต้องสงสัยเป็น LGBTQ และเป็นคนงานก่อสร้างที่เดียวกับปู่และย่าของเด็กชาย มักมาขอเล่นกับเด็กอยู่บ่อยครั้ง โดยช่วงบ่ายได้มาขอปู่และย่าอุ้มเด็ก อ้างว่าจะพาไปร้านสะดวกซื้อบริเวณใกล้เคียง แล้วก็หายตัวไปพร้อมกับเด็ก เมื่อเพจสายไหมได้รับแจ้งช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา จึงตัดสินใจพาปู่กับย่ามาแจ้งความที่ สภ.บางนา และไม่ทราบว่ามีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่าพบผู้ต้องสงสัยอุ้มเด็กขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไปที่สถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง
พลังโซเชี่ยล ช่วยกระจายข่าว
เพจข่าวสารเมืองปราการ v2 โพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านเฟซบุ๊ก ประกาศตามหา “น้องมาร์ติน” เด็กชายวัย 9 เดือน ถูกคนอุ้มไป โดยมีภาพกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ได้
ข่าวสารเมืองปราการ v2 โพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านเฟซบุ๊ก ประกาศตามหา “น้องมาร์ติน”
“ช่วยแชร์หน่อยค่ะ น้องหายไปวันนี้ค่ะ เห็นคนอุ้มไปประมาณบ่าย 3 ค่ะ คนในรูปอุ้มไปค่ะเพิ่งได้กล้องมา น้องชื่อมาร์ติน อายุ 9 เดือนค่ะ พิกัดที่หายท่าน้ำบางนา วัดบางนานอก สรรพาวุธ กทม. มีคนเห็นคล้ายผู้ชายผมยาว ใส่รองเท้าบู๊ธ อุ้มไปค่ะ มาขอปู่อุ้มเด็กบอกไป 7-11 ค่ะ โทร. 0634122456” หลังจากโพสต์ประกาศตามหา มีพลเมืองดีช่วยกันแจ้งเบาะแสเข้ามาจำนวนมาก
พลเมืองดีช่วยกันให้ข้อมูลผ่านทางเพจ
อีกหนึ่งเบาะแสสำคัญ เป็นภาพกล้องวงจรปิดภายในสถานีขนส่งหมอชิต จุดจำหน่ายตั๋วรถมินิบัส พบผู้ต้องสงสัยอุ้มเด็กเดินไปมา ก่อนเข้าไปซื้อบัตรโดยสารที่ช่องบริการ 4 แล้วเดินออกไปบริเวณชานชาลา ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยว่าผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวพยายามเดินทางออกต่างจังหวัด
ด้านปู่และย่าของเด็กชาย เปิดเผยว่า เลี้ยงหลานมาได้ประมาณ 4-5 เดือนแล้ว หลังจากแม่เด็กทิ้งไว้ให้ตนเองดูแล ซึ่งเป็นเด็กน่ารัก ไม่ค่อยงอแง หรือร้องไห้ โดยไม่ทราบสาเหตุที่ผู้ต้องสงสัยนำตัวเด็กไป
ต่อมาเวลา 23.30 น. มีพลเมืองดีได้ส่งภาพชายต้องสงสัยอุ้มเด็กอยู่บนรถโดยสาร ให้กับเพจของนายเอกภพ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ลักพาตัวเด็กไป จึงกลายเป็นเบาะแสสำคัญที่ทำให้ตำรวจ สน.บางนา ประสาน สภ.ระยอง ไปควบคุมตัวไว้ได้ที่สถานีขนส่งจังหวัดระยอง เมื่อเวลาประมาณ 24.00 น. โดยเด็กปลอดภัยอยู่ในความดูแลของตำรวจ
หลังจากทางปู่และย่าของเด็กชายทราบข่าวต่างก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน และเพจสายไหมต้องรอดที่เข้าช่วยเหลือจนช่วยกลับมาได้อย่างปลอดภัย กระทั่งเวลา 02.30 น.วันนี้ (8 พ.ค.) ตำรวจสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำตัวเด็กชายมาถึง สน.บางนา ซึ่งปู่และย่าเข้ากอดหลานชายด้วยความคิดถึง พร้อมกราบขอบคุณ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล
ขณะเดียวกันตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ โดยให้เหตุผลถึงการพาลักพาตัวเด็กไปว่า ต้องการนำไปเลี้ยงดูเป็นลูกเท่านั้น
จากการสืบประวัติเบื้องต้น ไม่พบชื่อที่ผู้ก่อเหตุอยู่ในทะเบียนราษฎร์ตามที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าเป็นคนไทย ทำให้ตำรวจสืบค้นประวัติว่าเป็นคนสัญชาติใด และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหรือไม่ ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และพรากผู้เยาว์ ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ปู่ ย่าเด็กขอบคุณที่ช่วยเหลือหลานอย่างปลอดภัย
Next >>
Tue, 7 May 2024 15:05:59
วันนี้ (7 พ.ค.2567) พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ควบคุมตัวนายหยาง ฉิวเจี๊ยน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกันอุ้มรีดเงินชาวจีน ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ส่วนนายหลิงซู พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ควบคุมตัวไปฝากขัง เนื่องจากยังมีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม
สำหรับคดีนี้เหลือผู้ต้องหาอีก 3 คนที่ยังหลบหนี คือ จ.ส.ต.วีระยุทธ หรือ จ่าแจ็ค, นายเจียนเปียว ชาวจีนที่หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน และนายณัฐพงษ์ ซึ่งได้ประสานขอเข้ามอบตัวในวันที่ 8 พ.ค.นี้
อ่านข่าว : จับเพิ่มอีก 2 คน ผู้ต้องหาร่วมขบวนการอุ้มรีดเงินชาวจีน
ขณะที่ลูกน้องคนสนิทของนายหยาง เดินทางมาเยี่ยมนายหยางที่ สน.ดินแดง พร้อมเปิดเผยว่า นายหยางไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับขบวนการอุ้มรีดเงิน แต่ที่ถูกออกหมายจับเพราะมีเส้นทางการเงินไปเกี่ยวข้อง เนื่องจากนายหยางทำอาชีพเป็นตัวกลางรับแลกสกุลเงินดิจิทัล ส่วนกรณีนี้ น.ส.ลูกปลา ปกติจะเป็นผู้ติดต่อมาขอแลกเงิน แต่ไม่ได้ติดต่อผ่านตัวเองหรือนายหยางโดยตรง แต่เป็นการคุยผ่านนายหน้าอีกที
ลูกน้องคนสนิทของนายหยาง ระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้ นายหยางเห็นข่าวว่าตัวเองมีชื่อถูกออกหมายจับ จึงประสานกับตำรวจขอเข้ามอบตัว เมื่อช่วงเวลา 17.00 น.วันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการถูกจับกุมตามที่เป็นข่าวและญาติจะยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล โดยเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสด พร้อมเตรียมเอกสารยืนยันความบริสุทธิ์มายื่นต่อศาล
อ่านข่าว
ดรามา! #โน้สอุดม ปมทอล์กความพอเพียง
ปคม.รวบชายอเมริกันหนีหมายจับสหรัฐฯ 11 คดีกบดานไทย
ศาลสั่งจำคุก 4 จำเลยบุกรุกบ้านอากู๋ 9 เดือน ปรับอีก 1.1 หมื่นบาท
<< Previous Next >>
Tue, 7 May 2024 13:40:27
วันนี้ (7 พ.ค.2567) ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ นำกำลังเข้าจับกุมนายเซลวา เดลาโน่ มูดาเลียร์ อายุ 37 ปี สัญชาติอเมริกัน ขณะพักอาศัยอยู่ที่คอนโดคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านบางพลัด กรุงเทพฯ หลังได้รับประสานจากสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ขอให้จับกุมผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ 11 คดีในสหรัฐอเมริกา
พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา เอฟบีไอ ติดต่อขอให้ช่วยสืบสวนติดตามตัวนายเซลวา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลประจำรัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา ที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายผู้อื่นและมักใช้อาวุธในการกระทำความผิด
อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ลักพาตัว หลอกลวงบังคับผู้เสียหายไปกระทำชำเราทางเพศหลายคดีและแสวงหาผลประโยชน์จากการค้ามนุษย์ทางเพศ หลังพบข้อมูลว่านายเซลวาได้หลบหนีหมายจับและเดินทางมาประเทศไทย
ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์สืบสวนจนพบว่า นายเซลวา เดินทางเข้าไทยตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยใช้วีซานักท่องเที่ยว ก่อนจะไปเที่ยวไปตามสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ และเข้าไปตีสนิทกับหญิงชาวไทยและต่างชาติ ก่อนจะชักชวนให้ไปร่วมพักอาศัยด้วย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่นายเซลวาใช้ก่อเหตุความรุนแรงทางเพศในสหรัฐฯ
กระทั่งวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้วางแผนเข้าจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน กลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯ
อ่านข่าว
"บิ๊กโจ๊ก" ยื่น "คัดค้านกรรมการสอบสวนวินัย" ยกชุด
ศาลสั่งจำคุก 4 จำเลยบุกรุกบ้านอากู๋ 9 เดือน ปรับอีก 1.1 หมื่นบาท
"มาริษ" ชี้ "ทักษิณ" คุยเมียนมาไม่โยงรัฐบาล อุบ "ยิ่งลักษณ์" ประสานกลับไทย
<< Previous Next >>
Tue, 7 May 2024 12:44:00
นัดแรกยังไม่ทันเริ่ม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ก็ค้านเสียแล้ว โดยได้ยื่นหนังสือคัดค้านกรรมการสอบสวนวินัย รวม 9 นาย โดยให้เหตุผลว่า เป็นคู่ขัดแย้งและเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการสอบสวน แน่นอนว่าสามารถทำได้
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.67) ว่า
ได้สั่งการให้กองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งพิจารณาตรวจสอบ ว่าตามรายชื่อกรรมการที่ถูกคัดค้าน มีคุณสมบัติครบถ้วน ตามที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กำหนดไว้หรือไม่
แม้การตรวจสอบคุณสมบัติจะไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาเอาไว้ แต่ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ระบุว่า จะต้องแล้วเสร็จก่อน ผลการสอบสวนวินัยร้ายแรง
อ่านข่าว : ไร้เงา "บิ๊กโจ๊ก" เข้าพบ คกก.สอบสวน รับทราบข้อหากล่าวหาเกี่ยวข้องเว็บพนัน
ครึ่งวัน ยังไร้วี่แวว
ตามกำหนดนัดของคณะกรรมการสอบสวน วันนี้ ได้นัด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมพวกตำรวจ รวม 5 นาย เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ประกอบการสอบสวนวินัย ซึ่งนับเป็นก้าวแรกของกระบวนการสอบสวนวินัย หลังถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยร้ายแรง จากกรณีต้องหาคดีอาญาในความผิดฐาน "สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน"
แต่ผ่านไปแล้วครึ่งวัน ยังไม่ปรากฏภาพของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพวก ที่กองบังคับการปราบปราม ซึ่งใช้เป้นสถานที่นัดหมาย ตามหลักการแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาจะเข้ามาในเวลาใดก็ย่อมได้ ตามเวลาราชการ ตามเวลาที่สะดวก แต่หากจะเลื่อนนัด ต้องประสานแจ้งล่วงหน้า ซึ่งก็ไม่ได้ปรากฏข้อมูลว่ามีการขอเลื่อนนัดแต่อย่างใด ดังนั้น ก็อาจจะได้เห็น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพวก เข้าพบคณะรรมการ ในช่วงบ่ายวันนี้
ขณะที่กระบวนการสอบสวนวินัยร้ายแรง ภายหลังที่มีการรับทราบข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิชี้แจงและนำสืบแก้ข้อกล่าวหาได้
เปิดรายชื่อ ทีมสอบวินัย "บิ๊กโจ๊ก"
พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. - เป็นประธานกรรมการ
พล.ต.ท.ณพวัฒน์ อารยางค์กูร รองจเร ตร. - เป็นกรรมการ
พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบช.ภ.1 - กรรมการ
พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. - กรรมการ
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. - กรรมการและเลขานุการ
พล.ต.ต.ศุภณัฐ์ เจริญเรืองกุล ผบก.กองตราจราชการ 4 - กรรมการ
อ่านข่าว : "บิ๊กต่าย" สั่งตรวจคุณสมบัติกรรมการสอบสวนฯ หลัง "บิ๊กโจ๊ก" ร้องค้าน
พ.ต.อ.บัณฑิต นิลอ่อน รอง ผบก.(สอบสวน) กฎหมายและคดี ภ.2 - กรรมการ
พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ - กรรมการ
พ.ต.อ.เทิดสยาม บุญยะเสนา ผกก.(สอบสวน) บก.สืบสวนสอบสวน ภ.5 - กรรมการ
พ.ต.อ.อัครเดช สุริยงค์ ผกก.ฝ่ายอำนวยการ บก.สันติบาล 2 - กรรมการ
พ.ต.อ.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ ผกก.(สอบสวน) บก.ป. - กรรมการ
พ.ต.ท.บุญลำ ลบโลกา รอง ผกก.(สอบสวน)กก.4 บก.ป. - ผู้ช่วยเลขานุการ
พ.ต.ท.ศิริพล บุญหนุน รอง ผกก.สืบสวนและตรวจราชการ 2
กองตรวจราชการ 2 สำนักงานจเรตำรวจ - ผู้ช่วยเลขานุการ
พ.ต.ท.รชต ฉัตรวชิระวงษ์ สารวัตร กก.4 บก.ป. -ผู้ช่วยเลขานุการ
จากรายชื่อของคณะกรรมการ จะเห็นได้ว่า หากยกเว้น พล.ต.อ.สราวุฒิ ในฐานะประธานกรรมการ เอาไว้ เนื่องจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เคยเอ่ยปากว่า เชื่อมั่นในการทำงานของ พล.ต.อ.สราวุฒิ และตัด 3 รายชื่อ ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ออกไป เพราะไม่มีหน้าที่ร่วมสอบสวน จะเท่ากับว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ยื่นคัดค้านการทำหน้าที่ของกรรมการ ยกชุด
แต่แน่นอนว่า กระบวนการสอบสวนจะไม่สะดุด เนื่องจาก รรท.ผบ.ตร. เคยระบุไว้แล้วว่า การตรวจสอบคุณสมบัติของกรรมการทั้ง 9 จะต้องได้ผลสรุป ก่อนที่จะมีผลการสอบสวนวินัยร้ายแรง ของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กับพวกรวม 5 นาย ที่มีกรอบเวลากำหนดไว้ ภายใน 270 วัน
รายงานพิเศษ/ กิตติพร บุญอุ้ม ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว :
<< Previous Next >>
วันนี้ (7 พ.ค.2567) ศาลอาญามีนบุรี อ่านคำพิพากษาคดี อ.1183/2567 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 ยื่นฟ้อง น.ส.ศรีพรรณ, นางนิตยา, นายพลกฤษณ์ และ น.ส.มาลี รวม 4 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานบุกรุก, ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์
จากกรณีจำเลยทั้งหมดบุกรุกบ้านของนายเหมทัศน์ ผู้เสียหาย ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในซอยรามอินทรา 58 แยก 6-2 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตและอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์เป็นของตัวเอง ก่อนจะย้ายออกไปเมื่อปลายปี 2566 และลักลอบกลับเข้ามาอ้างสิทธิการครอบครองปรปักษ์อีกครั้ง จึงมีการเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อระหว่างปี 2560-2566 จำเลยทั้ง 4 คนได้บุกรุกเข้าไปบ้านหลังที่เกิดเหตุ เนื่องจากเห็นว่าไม่มีใครอยู่ เพื่อจะเข้าไปต่อเติมสิ่งปลูกสร้างและอยู่อาศัย แต่โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่ามีการบุกรุกในตอนกลางวันหรือกลางคืน จึงต้องฟังให้เป็นคุณแก่จำเลยว่าเป็นการบุกรุกในเวลากลางวัน เเละไม่ได้เป็นการกระทำความผิดโดยบุกรุกอย่างต่อเนื่อง
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335, 365 ประกอบมาตรา 83 การกระทำความผิดเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท พิพากษาให้จำคุกจำเลยคนละ 1 ปี 6 เดือน ปรับ 22,000 บาท แต่จำเลยกับพวกให้การรับสารภาพ ประกอบกับไม่เคยต้องโทษมาก่อนและอายุมาก ศาลจึงลดโทษให้เหลือจำคุกคนละ 9 เดือนและปรับ 11,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
ส่วนข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ฝ่ายจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายครบถ้วนแล้ว 1 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงถอนฟ้องในข้อหานี้ไป เนื่องจากเป็นข้อหาที่ยอมความได้
อ่านข่าว
KNDF ยิงเฮลิคอปเตอร์เมียนมาตก ตาย 5 รวมนายทหารระดับสูง
"มาริษ" ชี้ "ทักษิณ" คุยเมียนนาไม่โยงรัฐบาล อุบ "ยิ่งลักษณ์" ขอกลับไทย
ไร้เงา "บิ๊กโจ๊ก" เข้าพบ คกก.สอบสวน รับทราบข้อหากล่าวหาเกี่ยวข้องเว็บพนัน
<< Previous Next >>
วันนี้ (7 พ.ค.2567) คณะกรรมการสอบสวนข้าราชการตำรวจ ที่มี พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิชย์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวน นัดหมาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการไปก่อนหน้านี้กับพวกรวม 5 นาย ให้เข้ารับทราบข้อหาและสอบสวนวินัย
จากกรณีต้องหาคดีอาญาในความผิดฐาน "สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน"
กรณีนี้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 นาย ยื่นหนังสือคัดค้าน คณะกรรมการสอบสวนฯชุดนี้ จำนวน 9 คนจาก 14 คน โดยอ้างว่าเคยเป็นคู่กรณีกันมาก่อน เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ประเด็นนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวว่า "เรื่องการสอบสวนวินัยตนจะไม่เข้าไปก้าวก่าย" และขณะนี้ได้สั่งการให้กองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งพิจารณาตรวจสอบว่ากรรมการทั้ง 9 คนที่ถูกร้องเรียนมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบจะต้องแล้วเสร็จก่อนผลการสอบสวนวินัยร้ายแรง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
อ่านข่าว : ไร้เงา "บิ๊กโจ๊ก" เข้าพบ คกก.สอบสวน รับทราบข้อหากล่าวหาเกี่ยวข้องเว็บพนัน
เปิดรายชื่อ 14 กก.สอบวินัย "บิ๊กโจ๊ก
สำหรับคณะกรรมการสอบวินัย ชุดนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งตั้งมาทั้งหมด 14 คน มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
อ่านข่าว : “บิ๊กโจ๊ก” เส้นทางชีวิตที่พลิกกลับ พิษเว็บพนัน “BNK Master”
1. พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ
2. พล.ต.ท.ณพวัฒน์ อารยางกูร รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ
3. พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รองผบช.ภาค 1 เป็นกรรมการ
4.พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผบช.ก. เป็นกรรมการ
5.พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เป็นกรรมการและเลขานุการ
6.พล.ต.ต.ศุภณัฏธ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.กองตรวจราชการ 4 เป็นกรรมการ
7.พ.ต.อ.บัณฑิต นิลอ่อน รอง ผบก.(สอบสวน) กองบังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค 2 เป็นกรรมการ
8.พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เป็นกรรมการ
9.พ.ต.อ.เทิดสยาม บุญะเสนา ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 เป็นกรรมการ
10.พ.ต.อ.อัครเดช สุริยงค์ ผกก.อก.บก.ตำรวจสันติบาล 2 เป็นกรรมการ
11.พ.ต.อ.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เป็นกรรมการ
12.พ.ต.ท.บุญนำ ลบโลกา รองผกก.(สอบสวน) กก.4 กองบังคับการปราบปราม เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
13.พ.ต.ท.ศิริพล บุญหนุน รองผกก.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 2 กองตรวจราชการ 2 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
14.พ.ต.ท.รชต ฉัตรวชิระวงษ์ สว.กก.4 บก.ป. เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
สำหรับคณะกรรมการฯ มีการกำหนดกรอบการสอบสวนไว้ 270 วัน ในช่วงแรก 15 วัน เป็นการเรียกผู้ถูกกล่าวหารับทราบข้อกล่าวหาและให้ข้อมูล
อ่านข่าว :
ครม.ใหม่เศรษฐา1/1 เข้าทำเนียบวันแรก-ถ่ายภาพหมู่
พายุฤดูร้อน ถล่ม "แปดริ้ว" น้ำท่วมหลายพื้นที่
"บิ๊กต่าย" สั่งตรวจคุณสมบัติกรรมการสอบสวนฯ หลัง "บิ๊กโจ๊ก" ร้องค้าน
<< Previous Next >>
จากกรณีผู้ก่อเหตุพยายามใช้มีดจี้ชิงทรัพย์สาวขับรถหรู ภายในลานจอดรถชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านรังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล วานนี้ (6 พ.ค.2567) เวลา 18.00 น.
ล่าสุดเวลา 20.00 น.ในวันเดียวกัน พ.ต.ต.วิชญะ พันธุ์งาม สว.สส.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ร่วมกันจับกุมนายกันตินันท์ อายุ 46 ปี ชาว จ.ปทุมธานี โดยจับกุมขณะหลบซ่อนตัวในรถเก๋ง ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถชั้น 2A ของห้างดังกล่าว พร้อมอาวุธมีด เสื้อคลุมแขนยาวสีฟ้า กางเกงยีนส์ขาสั้น และกระเป๋าคาดเอว ที่ใช้ก่อเหตุ
พ.ต.ต.วิชญะ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์บริเวณลานจอดรถห้างดัง ตนเองได้นำกำลังชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบ และทราบว่าภรรยาของผู้ก่อเหตุกำลังเดินทางมาเอารถที่จอดอยู่ชั้นล่าง จึงได้ขอตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบผู้ก่อเหตุหลบซ่อนอยู่ที่บริเวณท้ายรถ จึงนำตัวมาสอบสวน เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ทะเลาะกับแฟน และหนีออกจากบ้านมาแล้ว 2 วัน โดยติดการพนัน หลังก่อเหตุแล้วได้วิ่งมาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในรถ จากนั้นโทรศัพท์บอกแฟนให้มารับรถออกจากห้างไปโดยไม่ได้บอกว่าตนเองไปที่ใด กระทั่งตำรวจตามมาพบและจับกุม
เบื้องต้นการตรวจสอบแอปพลิเคชันไลน์ของภรรยาผู้ก่อเหตุ ไม่พบพิรุธแต่อย่างใด คาดว่านายกันตินันท์ ก่อเหตุเพียงลำพัง พร้อมแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ โดยสอบสวนผู้ต้องหา หากเข้าข่ายความผิดใดก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ส่วนผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
อ่านข่าว :
พายุฤดูร้อน ถล่ม "แปดริ้ว" น้ำท่วมหลายพื้นที่
ครม.ใหม่เศรษฐา1/1 เข้าทำเนียบวันแรก-ถ่ายภาพหมู่
จับแล้ว ชายควงมีดชิงทรัพย์ "สาวขับเบนซ์" ห้างดังย่านรังสิต
<< Previous Next >>
Tue, 7 May 2024 07:04:20
วันนี้ (7 พ.ค.2567) ตำรวจสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 รวมกับฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ควบคุมนายชยากร ซู เป็นคนจีนสัญชาติไทย ได้ในพื้นที่ย่านโชคชัย 4 หลังชุดสืบสวนพบข้อมูลว่าเดือนทางเข้าประเทศทางชายแดนฝั่งอรัญประเทศเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (6 พ.ค.2567) ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.ดินแดงเมื่อคืนที่ผ่านมา
อีกหนึ่งคนคือนายหยาง ที่ถูกนำตัวมาสอบปากคำด้วยเช่นกัน หลังติดต่อขอมอบตัวเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.2567)
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า จากคำให้การของทั้งคู่ สอดคล้องกันโดยนายชยากร ซู ให้การว่าได้ติดต่อ น.ส.ลูกปลา ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้ นำเครื่องรูดบัตรแบบเคลื่อนที่ หรือ ที่เรียกว่าเครื่องรูดบัตร EDT นำมาให้กับกลุ่มผู้เสียหายรูดบัตรเครดิตเพื่อแลกเป็นเงินสด
อ่านข่าว : เร่งตามจับ "แก๊งอุ้มรีดเงินชาวจีน" ขอหมายจับเพิ่มอีก 3 คน
ก่อนชี้เป้าให้กับกลุ่มผู้ต้องหาเข้ามาร่วมก่อเหตุเรียกเอาเงินผู้เสียหาย และในวันเกิดเหตุได้นั่งรถเก๋งไปพร้อมกับนายเจียนเปียว อู๋ ชาวจีน ซึ่งเป็นคนขับ นำ 2 ใน 4 ผู้เสียหาย ขึ้นรถไปพร้อมกับขบวนรถผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 4 คัน โดยมี ด.ต.อรรถวุฒิ สุมนรัตนกูล อดีตตำรวจสืบสวน สน.คันนายาวไปด้วย และทำการเรียกค่าไถ่ ที่สนามยิงปืน กองบัญชาการศึกษา เป็นที่สุดท้าย
ตำรวจจับผู้ต้องหาในขบวนการอุ้มรีดเงินนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้เพิ่มอีก 2 คน เป็นคนจีนสัญชาติไทย และสัญชาติจีน มาสอบปากคำที่ สน.ดินแดงเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพร่วมก่อเหตุจริง
จากคำให้การ นายเจียนเปียว อู๋ เป็นคนนำคิว QR Code ให้กับผู้เสียหายโอนเงินดิจิทัล USDT ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งบัญชีปลายทางคือกระเป๋าเงินดิจิทัลของ นายหยาง ฉิวเจี๊ยน จากนั้นได้นำเงินดิจิทัลมาแปลงเป็นเงินบาทไทย ผ่านบริษัทแลกเปลี่ยนอัตราสกุลเงินดิจิทัลแห่งหนึ่ง โอนเข้ามายังบัญชีธนาคารพาณิชย์ 2 ธนาคาร มีหนึ่งบัญชีถูกตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ อายัดเอาไว้ตรวจสอบ จำนวนกว่า 800,000 บาท อีกหนึ่งบัญชีที่มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,499,980 บาท
ก่อนนำเงินจำนวนนี้ โอนให้กับบัญชี จ.ส.ต.วีรยุทธ จำนวน 700,000 บาท บัญชี นายนภสินธุ์ จำนวน 700,000 บาท และ บัญชีนายเจียน เปียว อู๋ จำนวน 100,000 บาท ส่วนบัญชีที่ถูกอายัดเอาไว้ยังไม่ถูกจัดสรรปันส่วนกัน
ตำรวจจับผู้ต้องหาในขบวนการอุ้มรีดเงินนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้เพิ่มอีก 2 คน เป็นคนจีนสัญชาติไทย และสัญชาติจีน มาสอบปากคำที่ สน.ดินแดงเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพร่วมก่อเหตุจริง
ขณะนี้ตำรวจขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว 10 คน จากเดิมที่กำหนดไว้ 11 คน เนื่องจากบุคคลที่ 6 และ ที่ 11 จากข้อมูลการสอบสวนพบว่า เป็นบุคคลเดียวกัน คือนายณัฐพงษ์ ผู้ต้องหาชาวไทย ที่อยู่ในขบวนการดังกล่าว ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 8 พ.ค.นี้ ที่ สน.ดินแดง ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายเจียนเปียว อู๋ และ จ.ส.ต.วีรยุทธ เพชรรัตน์ "จ่าแจ๊ค" สังกัดงานจราจร สน.พญาไท ขณะอยู่ระหว่างหลบหนี พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้ให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
สำหรับนายชยากร ซู ที่มีสัญชาติไทย ทางตำรวจจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ,ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน,ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือกระทำด้วยประการ ใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ส่วนนายหยางถูกแจ้งเพียงข้อหารับของโจร และเตรียมนำตัวฝากขังต่อศาลอาญาในวันนี้ช่วงบ่าย
อ่านข่าว
ฝากขัง 5 ผู้ต้องหารีดเงินชาวจีน - เร่งตามจับอีก 6 คน
ศาลออกหมายจับ 2 ใน 6 ผู้ต้องสงสัย ร่วมก่อเหตุอุ้มรีดเงินชาวจีน
ตร.เตรียมออกหมายเพิ่ม 6 คน ร่วมก่อเหตุอุ้มรีดเงินชาวจีน
<< Previous Next >>
Mon, 6 May 2024 16:17:09
วันนี้ (6 พ.ค.2567) เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครรังสิต เข้าช่วยเหลือ เด็กชาย อายุประมาณ 10 ขวบ หลังจากเดินตกท่อระบายน้ำ จนได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาด้านซ้าย ภายในซอยหมู่บ้าน ใน จ.ปทุมธานี
นางชัชชญา ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง บอกว่า ก่อนเกิดเหตุได้แจ้งเตือนเด็กกลุ่มนี้แล้ว ว่า ให้เดินผ่านถนนสายนี้อย่างระมัดระวัง เพราะมีท่อระบายน้ำชำรุด แต่เมื่อตัวเองเดินกลับไปหลังบ้าน ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงเดินมาดู ปรากฏว่ามีเด็กประสบอุบัติเหตุแล้ว
ร.ต.อ.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต บอกว่า ได้พูดคุยกับครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ พร้อมสั่งการให้หน่วยซ่อมบำรุงของเทศบาลนครรังสิต เข้าซ่อมแซม ท่อระบายน้ำที่ชำรุดแล้ว พร้อมกับ สำรวจท่อระบายน้ำจุดอื่นๆ หากพบความเสียหาย ก็จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปซ่อมแซม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
อ่านข่าว :
ด่วน! กระบะ จนท.ดับไฟป่าพลัดตกเขาจอมทอง บาดเจ็บ 14 คน
หญิง 18 ปี ขี่ จยย.ชนแผงเหล็กตกท่อเก็บสายสื่อสาร อาการสาหัส
<< Previous Next >>
Mon, 6 May 2024 13:37:00
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2567 ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุอุ้มชาวจีนไปรีดเงิน 2.5 ล้านบาท หลังพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ส่งฝากขัง โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย ด.ต.อรรถวุฒ หรือ บอส อดีตข้าราชการตำรวจ, ส.ต.อ.ภูวเดช, นายธีรชัย, นายนภสินธุ์ และ น.ส.จารุเนตร หญิงชาวลาวทำหน้าที่นางนกต่อเข้าไปพบชาวจีนในห้องพัก
ศาลระบุเหตุผลว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ขณะนี้ทั้งหมดถูกส่งตัวควบคุมในเรือนจำ
อ่านข่าว : ฝากขัง 5 ผู้ต้องหารีดเงินชาวจีน - เร่งตามจับอีก 6 คน
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดขณะนี้มีอย่างน้อย 10 คน ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุม โดยศาลได้ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 หมายจับ คือ จ.ส.ต.วีรยุทธ หรือ จ่าแจ็ค ซึ่งเป็นคนที่ได้ข้อมูลกลุ่มผู้เสียหายจากหญิงชาวลาว และสันนิษฐานว่าเป็นผู้วางแผนการ
ส่วนอีกคนเป็นชาวจีน มีหมายจับคดีรับของโจร คือ นายหยาง ฉิว เจี้ยน ซึ่งนายหยางเป็นผู้รับแลกเงินให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ หลังกรรโชกทรัพย์จากกลุ่มผู้เสียหายมาได้สำเร็จ
ล่าสุดวันนี้ (6 พ.ค.) พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขอหมายจับเพิ่มอีก 3 คน ซึ่งเป็นพลเรือน ส่วนตำรวจที่หลบหนียังไม่ติดต่อมอบตัว
ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ระบุว่า ชุดสืบสวนนครบาลกำลังเร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัว และยืนยันว่าไม่ได้มีการช่วยเหลือตำรวจด้วยกัน พร้อมสั่งการให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้มงวดเรื่องการคัดกรอง ตรวจสอบข้อมูลและตรวจสอบประวัติบุคคลที่จะเข้าประเทศ รวมถึงสั่งการให้ถอดบทเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่มีการเรียกค่าไถ่ผ่านทางระบบอีวอลเล็ต ก่อนจะแปลงเป็นเงินไทย เพื่อให้ทันยุคสมัยที่เปลี่ยนไปและนำมาป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก
อ่านข่าว
"บิ๊กต่าย" สั่งตรวจคุณสมบัติกรรมการสอบสวนฯ หลัง "บิ๊กโจ๊ก" ร้องค้าน
ตร.เรียกสอบปากคำ "คนใกล้ชิด" เจ้าของบ้านถูกลักทรัพย์ 40 ล้าน
ดอกไม้ทะเลฟอกขาว! โลกร้อนทำทะเลเดือดเสี่ยงฆ่า "ปลาการ์ตูน"
<< Previous Next >>
Sun, 5 May 2024 13:02:20
วันนี้ (5 พ.ค.2567) ตำรวจจับกุมหญิงชาวลาว ผู้ทำหน้าที่ชี้เป้านักท่องเที่ยวชาวจีนให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุอุ้มรีดทรัพย์ ตำรวจให้ข้อมูลว่า หญิงชาวลาวเป็นลูกน้องของจ่าแจ็ค ซึ่งรู้จักกลุ่มชาวจีนผู้เสียหายอยู่ก่อนแล้ว จึงได้นำข้อมูลการเงินไปบอกกับจ่าแจ็ค จากนั้นก็มีการวางแผนรีดเงิน
เบื้องตัน หญิงชาวลาวสารภาพอ้างว่า จ่าแจ็ควางแผนให้ทำทีตกเป็นผู้เสียหายที่ถูกอุ้มรีดเงินเช่นเดียวกันกับกลุ่มชาวจีน เพื่อให้ชาวจีนหลงเชื่อ หลังก่อเหตุสำเร็จก็ได้รับเงินส่วนแบ่ง
ขณะที่เมื่อคืนนี้ (4 พ.ค.) ตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม 2 คน คือ น.ส.จารุเนตร อายุ 33 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว แล้วอ้างตัวเป็นเจ้าพนักงาน และนายหยาง ฉิวเจี๊ยน ชาวจีน อายุ 45 ปี ฐานความผิดรับซื้อของโจร
อ่านข่าว : ศาลออกหมายจับ 2 ใน 6 ผู้ต้องสงสัย ร่วมก่อเหตุอุ้มรีดเงินชาวจีน
จนถึงขณะนี้ กลุ่มขบวนการนี้พบผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้อง 11 คน ติดตามจับได้แล้ว 5 คน ส่วนที่เหลืออีก 6 คนตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยรายสำคัญคือ จ.ส.ต.วีรยุทธ หรือ จ่าแจ๊ค และผู้ต้องหาชาวจีนอีกคน ซึ่งในกลุ่มที่ถูกควบคุมตัวมีบางคนปฏิเสธและยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการ
ตำรวจคุมตัวทั้งหมดส่งฝากขังต่อศาลเมื่อช่วงสายวันนี้ (5 พ.ค.) โดยทั้งหมดถูกดำเนินคดี ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานฯ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน รวม 4 ข้อหา
อ่านข่าว
"สมุทรสาคร" ประกาศเขตประสบสาธารณภัยไฟไหม้โรงงานกระดาษ
หลายฝ่ายโต้กลับ "อุ๊งอิ๊ง" วิจารณ์ "ธปท."อุปสรรคพัฒนาประเทศ?
<< Previous Next >>
Sat, 4 May 2024 20:07:35
วันนี้ (4 พ.ค.2567) กลุ่มญาติพี่น้องและครอบครัว ของนายกำธร จารุอนันต์ อายุ 59 ปี ผู้เสียชีวิตจากการเดินข้ามถนนตกท่อร้อยสายไฟฟ้า เดินทางมาร่วมแสดงความไว้อาลัยนายกำธร ที่ ศาลา16 วัดธาตุทอง ซึ่งจัดให้มีพิธีรดน้ำศพ
ขณะเดียวกันพบมีกลุ่มตัวแทนจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มาร่วมในพิธีรดน้ำศพด้วย นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการกฟน. และเจ้าหน้าที่ กฟน.เดินทางมาร่วมงานศพนายกำธร พร้อมกับกล่าวแสดงความเสียใจ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด
อ่านข่าว : ญาติผู้เสียชีวิตเหตุตกท่อ เล็งฟ้องเอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า สาเหตุเกิดจากอะไร ยืนยันจะดูแลรับผิดชอบทั้งหมด พร้อมเสนอขอเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานศพวันนี้
นอกจากนี้ ยังแจ้งว่า กฟน.ได้แบ่งการดูแลออกเป็น 2 ส่วน คือ การจัดสรรเงิน 50,000 บาทให้ก่อน เพราะเป็นความจำเป็นเร่งด่วน และ อีกส่วนจะมีคณะกรรมการมาดูแลเรื่องการเยียวยาอีกครั้ง โดยจะพิจารณาว่า มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาอะไรได้บ้าง
เบื้องต้น มีการตั้งคณะกรรรมการมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก ส่วนเงินเยียวยาจำนวน 10 ล้านบาท ที่ทางฝ่ายญาติเรียกร้อง ขณะนี้ตัวเองยังไม่ทราบต้องให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
สำหรับฝาท่อที่ถูกลักทรัพย์ไป 150 ฝา นั้น ล่าสุด กฟน.ได้แก้ไขเร่งด่วนด้วยการกว้านซื้อแผ่นปูนจากร้านวัสดุก่อสร้างมาปิดฝาบ่อทั้งหมดแล้ว และขณะนี้ได้สั่งหล่อแผ่นคอนกรีตฝาท่อมาเปลี่ยนให้ โดยการทำฝาต้องมีมาตรการป้องกันการขโมย คือ เชื่อมติดไปเลย
ส่วนที่ถูกขโมยไปก่อนหน้านี้ทาง กฟน.ได้เข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สน.พหลโยธิน สน.โชคชัย และ สน.ลาดพร้าว ซึ่งจะได้มีการติดตามผลต่อไปว่า มีการจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วหรือไม่
นอกจากปัญหาการถูกลักขโมยฝาท่อ แล้วยังมีการถูกลักลอบตัดสายไฟตามเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอีกด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่ทาง กฟน.ต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหามาตรการป้องกันต่อไป
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ได้เดินทางมาร่วมเคารพศพนายกำธร พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจกับกลุ่มญาติและรับปากจะให้ทางเขตวังทองหลางเข้าไปดูแลพี่สาวของนายกำธรที่ต้องอยู่เพียงลำพัง
นายชัชชาติ เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้มอบเงินเยียวยาให้ ซึ่งเป็นเงินที่มาจากชาวกรุงเทพมหานครที่ช่วยเหลือกัน และหลังจากนี้ทุกโครงการที่ก่อสร้างในกรุงเทพมหานคร จะต้องมีการตรวจสอบ และประเมินสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุไว้ล่วงหน้า โดยตัวเองได้เน้นย้ำด้านการดูแลความเรียบร้อย เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ ยังพบว่า นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ยังได้เดินทางมาร่วมงานศพนายกำธร พร้อมมอบเงินสดจำนวน 50,000 บาทให้แก่นายกำพนธ์น้องชายผู้เสียชีวิต พร้อมแสดงความเสียใจและยืนยันว่าจะดูแลและไม่ทอดทิ้งผู้เสียหาย
ส่วนเรื่องข้อเรียกร้องเงินเยียวยาจำนวน 10 ล้านบาทนั้น ต้องพิจารณาตามข้อบังคับที่มีอยู่ และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้ตั้งกรรรมการมาตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากผลการสอบสวนเป็นอย่างไรจะมีมาตรการต่อไป ส่วนบริษัทผู้รับว่าจ้างจะมีความผิดอย่างไร ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ใด ๆ ได้
อ่านข่าว
ญาติผู้เสียชีวิตเหตุตกท่อ เล็งฟ้องเอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ชายตกท่อลึก 15 เมตร เสียชีวิต พบฝาท่อเป็นเพียงไม้อัด
กทม.สั่งระงับสร้างบ่อพักเกาะกลางลาดพร้าว 49 ขีดเส้น 3 วันทำฝาท่อมาตรฐาน
<< Previous Next >>
Sat, 4 May 2024 19:24:17
วันนี้ (4 พ.ค.2567) ความคืบหน้าคดีแก๊งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์เรียกค่าไถ่ชาวจีน 2.5 ล้านบาท บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่งย่านดินแดง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าวุด พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยความคืบหน้าการ ขอหมายจับ 6 ผู้ต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการตำรวจอุ้มรีดเงินชาวจีน ในพื้นที่ย่านดินแดง ที่เหลือหลังก่อนหน้านี้ได้ขอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 5 คน ว่า
ขณะนี้ศาลออกหมายจับ 2 ใน 6 กลุ่มผู้ต้องสงสัยที่เหลือแล้ว หลังพนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นตัวเองได้กำชับให้เร่งติดตามตัวผู้ที่อยู่ในขบวนการดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนอีก 4 คนที่ขณะนี้ศาลยังไม่ออกหมายจับนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ค.2567) พนักงานสอบสวนจะนำพยานหลักฐานไปขอออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 2 คนก่อน ส่วนอีก 2 คนที่เหลืออยู่ระหว่างเร่งติดตามข้อมูลเนื่องจากหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้เป็นเพียงรูปภาพ ซึ่งจะต้องมีการยืนยันตัวตนอย่างละเอียดอีกครั้ง
อ่านข่าว
ตร.เตรียมออกหมายเพิ่ม 6 คน ร่วมก่อเหตุอุ้มรีดเงินชาวจีน
จับเพิ่ม ล่ามจีน หนึ่งในแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน เร่งล่าตร.พญาไทที่หลบหนี
ญาติผู้เสียชีวิตเหตุตกท่อ เล็งฟ้องเอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
<< Previous Next >>
Sat, 4 May 2024 16:41:00
วันนี้ (4 พ.ค.2567) เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจของสถานีตำรวจนครบาลบางเขน เข้าตรวจสอบภายในบ้านของ คุณตาวัย 90 ปี หลังแจ้งตำรวจว่า ถูกขโมยทองน้ำหนักมากกว่า 50 บาท ซึ่งคุณตาได้พาไปชี้จุดที่อ้างว่ามีการเก็บทองไว้ที่บริเวณห้องนอนของพี่สาว ที่ตรงหัวเตียงพบมีกล่องขนมคุกกี้ 2 กล่องวางไว้เบื้องต้นคุณตาได้นำออกมาก่อนจะเปิดให้ดูว่าข้างในนั้นไม่มีอะไรอยู่ภายใน
คุณตาวัย 90 ปี เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ คือ วันที่ 30 เม.ย.2567 น้องสาวตัวเองได้เสียชีวิต จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็เข้ามาทำหน้าที่ตามปกติโดยมาปฏิบัติหน้าที่กันหลายคน ก่อนจะพบว่าทั้งบัตรประชาชนของตัวเองและของน้องสาวหาย ทางเจ้าหน้าที่จึงช่วยกันหา ซึ่งหลังจากกู้ภัยกลับไปตัวเองก็พบว่า กล่องที่อยู่ใต้เตียงของน้องสาวถูกเปิดออกและข้างในนั้นมีสภาพว่างเปล่า
คุณตายืนยันว่า ก่อนหน้านี้ภายในกล่องใบนี้มีสร้อยคอทองคำเก็บไว้ ประมาณ 50 บาท โดยเป็นมรดกของครอบครัว หลังเกิดเหตุจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางเขนเพื่อให้ช่วยติดตามเรื่อง
คุณตา เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องการได้ทองคืนเป็น เพราะเป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย และจะนำทองเหล่านี้ไปขาย เพื่อนำเงินมารักษาพี่สาวที่นอนรักษาอยู่ที่ห้อง ICU ภายในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งคุณตายังได้ฝากไปถึงคนที่นำทองไปว่าให้นำทองกลับมาคืน ส่วนเรื่องคดีที่ได้มีการไปแจ้งของหายไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขนนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้แจ้งว่าใครเป็นคนนำทองไปเพียงแต่แจ้งว่าของหายเท่านั้น
ด้านนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่ให้ความช่วยเหลือคุณตาวัย 90 ปี กล่าวว่า คุณตาได้ติดต่อผ่านญาติว่า ต้องการความช่วยเหลือ ตนเองจึงเข้ามาประสานงานช่วยเหลือ โดยได้พาคุณตาไปแจ้งความและมีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนหลังจากนี้ ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ในส่วนของความคืบหน้าทางคดี พ.ต.ท.ศุภชัย หาญคำหล้า รอง ผกก.สอบสวน สน.บางเขน เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำคุณตาวัย 90 ปีเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งคุณตายืนยันว่า ทองหายจริงก็จะมีการตรวจสอบในเรื่องนี้
ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเป็นผู้นำทองไป หลังจากนี้จะมีการเรียกเจ้าที่อาสากู้ภัยมาสอบปากคำภายใน 2 วันนี้ โดยเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยได้มีการประสานมาว่าจะนำหลักฐานซึ่งเป็นคลิปวิดีโอที่มีการถ่ายไว้ในที่เกิดเหตุมาให้ด้วย
<< Previous Next >>
Sat, 4 May 2024 16:13:00
วันนี้ (4 พ.ค.2567) ความคืบหน้าคดีแก๊งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์เรียกค่าไถ่ชาวจีน 2.5 ล้านบาท บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่งย่านดินแดง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พร้อมกับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อเหตุรีดเงินชาวจีนในพื้นที่ย่านดินแดง พร้อมกับคณะทำงาน
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า หลังตำรวจขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุเบื้องต้น 5 คน เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.2567) ขณะนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 4 คน ส่วนที่เหลืออีก 1 คน อยู่ระหว่างติดตามตัวคือ จ.ส.ต.วีรยุทธ เพชรรัตน์ หรือ "จ่าแจ๊ค" สังกัดงานจราจร สน.พญาไท
รอง ผบช.น.ย้ำว่า หากบุคคลใดให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหา ไม่ว่าจะเป็นให้ที่พักพิงหรือช่วยปกปิดข้อมูล จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตำรวจยืนยันว่า จะเร่งติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
ส่วนผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุมได้ เบื้องต้นพบว่า ทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ แต่ก็ยังให้การภาคเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตำรวจได้ให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวโดยผู้เสียหายยืนยันว่าทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุมคือกลุ่มผู้ก่อเหตุอุ้มเรียกค่าไถ่
สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้พบว่า มีการแบ่งหน้าที่กัน โดยมีอดีต "ดต.บอส" ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะและเป็นด่านสุดท้ายที่ผู้ก่อเหตุจะพามาพบเพื่อให้ยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจพร้อมกับข่มขู่รีดเงิน
ส่วนนายนภสินธ์ "บิ๊ก" ได้รับการติดต่อจาก "จ.ส.ต.วีรยุทธ" ให้ทำหน้าที่นั่งรถมาพร้อม น.ส.ลูกปลา ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการแลกเงินและเข้ามาเปิดห้องพักเพื่อให้เข้าถึงตัวผู้เสียหาย
ส่วนนายธีรชัย หรือ "ฟาง" ได้รับการติดต่อจาก "จ.ส.ต.วีรยุทธ" ให้มาเป็นล่ามแปลภาษาเพื่อติดต่อกับผู้เสียหาย โดยได้รับค่าจ้าง 1.5 หมื่นบาท และ ส.ต.อ.ภูวเดช หรือ "หมู่มิก" พบว่า ทาง "จ.ส.ต.วีรยุทธ" ได้ยืมรถโดยอ้างว่าจะมาจับผู้ต้องหาก่อนจะถูกชวนมาร่วมทีม
ผู้ก่อเหตุอีก 6 คนที่ปรากฏตามภาพกล้องวงจรปิดนั้น ขณะนี้ตำรวจได้ติดตามพยานหลักฐานรวมถึงสอบปากคำกลุ่มผู้ก่อเหตุจนสามารถทราบชื่อเล่นเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุศาลออกหมายจับต่อไป คาดว่าจะสามารถออกหมายจับได้ภายในวันนี้
สำหรับผู้เสียหายทั้ง 5 คน แต่ถูกคุมตัวขึ้นรถในวันเกิดเหตุเพียงแค่ 4 คน ในส่วนนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ในช่วงเกิดเหตุมีผู้เสียหาย 1 คน ได้พยายามวิ่งหนี โดยมีกลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามวิ่งติดตามแต่ไม่ทัน ซึ่งเดิมทีตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุแต่ในขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าไม่เกี่ยวข้อง
เนื่องจากสืบทราบแล้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบุคคลใดเป็น "นกต่อ" ที่ชี้เป้าให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยนกต่อคนนี้มีชื่อว่า น.ส.ลูกปลา เป็นผู้นำเครื่องรูดบัตรมาให้กับกลุ่มผู้เสียหาย และล่าสุดอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ
ส่วนเส้นทางการเงินจำนวน 2.5 ล้านบาท ที่ผู้เสียหายได้โอนเข้ามาให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากการสืบสวนพบว่า เส้นเงินถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกประมาณ 1.4 ล้านบาท ได้ถูกแบ่งให้ "ดาบบอส" จำนวน 7 แสนบาท และจ่าแจ๊คอีกจำนวน 7 แสนบาท โดย จ่าแจ็คได้โอนไปให้กับหมู่มิก จำนวน 1 แสนบาท
ส่วนเงินก้อนที่ 2 ประมาณ 8.9 แสนบาท ถูกโอนเข้าบัญชีขบวนการซื้อขายออนไลน์ ซึ่งบัญชีนี้ได้ถูกอายัดโดยตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ จึงทำให้ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้
และหลังจากนี้ ตำรวจจะได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และสถานทูต เพื่อขอทราบรายละเอียดการเดินทางเข้ามาประเทศไทย และประวัติของกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดถึงวัตถุประสงค์ในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
ส่วนสาเหตุที่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทำการเลือกลงมือกับกลุ่มผู้เสียหายชาวจีนกลุ่มนี้ มีการสันนิษฐานว่า มาจากการที่กลุ่มชาวจีนกลุ่มนี้ต้องการแลกเงินเงินสดมาใช้จ่ายในประเทศไทย ซึ่งอาจเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการเงินส่วนนี้จากผู้เสียหาย
อ่านข่าว : จับเพิ่ม ล่ามจีน หนึ่งในแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน เร่งล่าตร.พญาไทที่หลบหนี
ญาติผู้เสียชีวิตเหตุตกท่อ เล็งฟ้องเอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กทม.สั่งระงับสร้างบ่อพักเกาะกลางลาดพร้าว 49 ขีดเส้น 3 วันทำฝาท่อมาตรฐาน
<< Previous Next >>
Sat, 4 May 2024 13:17:00
วันนี้ (4 พ.ค.2567) จากเหตุการณ์ชายตกบ่อพักและท่อร้อยสายไฟบริเวณปากซอยลาดพร้าว 49 เสียชีวิต เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.2567)
ล่าสุด ญาติของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวประกอบด้วยพี่สาว 2 คน และน้องชายเดินทางมารับร่างผู้เสียชีวิต ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ
อ่านข่าว : ชายตกท่อลึก 15 เมตร เสียชีวิต พบฝาท่อเป็นเพียงไม้อัด
น้องชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา รองผู้ว่าฯ กทม.ได้ติดต่อมาเพื่อแสดงความเสียใจและมอบเงินช่วยเหลือให้จำนวนหนึ่ง
ญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุชายตกท่อเสียชีวิตเดินทางมารับร่างผู้เสียชีวิต ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ
ส่วนนายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง(รองผู้ว่าฯกฟน.) ได้มอบหมายให้เลขานุการส่วนตัวติดต่อมาว่าจะมาร่วมงานศพ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเยียวยา
ตอนแรกตัวเองเข้าใจว่ารองผู้ว่าฯ กฟน.จะโทรศัพท์มาขอโทษและมาร่วมงานศพด้วยตัวเอง แต่ปรากฏว่าเป็นการมอบหมายให้เลขาฯมาแทน ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ตัวเองยังได้รับคำขอโทษจากปากของรองผู้ว่าฯ กฟน.โดยตรง ส่วนตัวจึงมองว่าไม่มีความจริงใจในการรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่มีการขอโทษครอบครัวผ่านทางสื่อมวลชน ตัวเองคงให้อภัยไม่ได้ และยืนยันจะฟ้องร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้รับเหมาก่อสร้างที่ต้องรับผิดชอบดูแลฝาท่อให้ได้มาตรฐานตั้งแต่แรกไม่ใช่เมื่อมีอุบัติเหตุจึงนำเอาแผ่นปูนมาปิด ส่วนนี้จึงแสดงให้เห็นว่าทางผู้รับเหมามีการเตรียมแผ่นปูนไว้พร้อมอยู่แล้วแต่ไม่คิดจะทำเพราะเวลาผ่านมา 7 เดือนนับจากที่ถูกขโมยฝาท่อ แต่ก็ยังไม่ปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จ
ส่วนที่มีการอ้างว่า สาเหตุที่ไม่นำท่อมาปิดไว้เพราะเกรงว่าจะถูกขโมย มองว่าปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดกล้องวงจรปิด เพราะเป็นองค์กรขนาดใหญ่
จุดเกิดเหตุชายพลัดตกท่อเสียชีวิต บริเวณปากซอยลาดพร้าว 49
ส่วนเรื่องการจัดพิธีทางศาสนา หลังรับศพจากสถาบันนิติเวช ฯแล้วจะนำร่างไปเชิญดวงวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะนำไปสวดพระอภิธรรมศพที่วัดธาตุทอง เขตวัฒนา กทม. เป็นเวลา 2 คืน ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 6 พ.ค.นี้
อ่านข่าว
กทม.สั่งระงับสร้างบ่อพักเกาะกลางลาดพร้าว 49 ขีดเส้น 3 วันทำฝาท่อมาตรฐาน
พบอีกจุด ท่อไม่มีฝาปิดย่านลาดพร้าว 87 ห่างจุดชายตกท่อ 4 กม.
ปัดกันวุ่น! กทม.-รฟม.ปมชายตกท่อเสียชีวิตที่แท้ของ กฟน.
<< Previous Next >>
Sat, 4 May 2024 10:38:30
วันนี้ ( 4 พ.ค.2567) ความคืบหน้าคดีแก๊งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์เรียกค่าไถ่ชาวจีน 2.5 ล้านบาท บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่งย่านดินแดง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา และเมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล และชุดสืบสวนนครบาล 1 ร่วมกับสถานีตำรวจนครบาลดินแดง ได้ร่วมกันจับกุมนายธีรชัย เฉลิมวันเพ็ญ หรือ ฟาง อายุ 36 ปี ล่ามภาษาจีนที่อยู่ในขบวนการอุ้มรีด กับพวก มาสอบปากคำที่ สถานีตำรวจนครบาลดินแดง ซึ่งถือเป็นผู้ต้องหาที่จับกุมได้เป็นคนที่ 3-4 จาก 5 หมายจับที่ตำรวจออกไปก่อนหน้านี้
พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายฟางให้การรับสารภาพว่าถูกจ่าสิบตำรวจวีรยุทธ ผบ.หมู่จราจร สน.พญาไท ว่าจ้างให้มาคุยกับคนจีนเรื่องการเรียกเงินค่าไถ่ และตนเองจะได้รับค่าจ้าง 15,000 บาท ยอมรับว่าอยู่ในกลุ่มขบวนการอุ้มรีดทรัพย์เรื่องนี้
ส่วนเงินค่าจ้างที่มีการแบ่งกันในกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 11 คน จะเป็นการแบ่งกันตามสัดส่วนหน้าที่ โดยตำรวจพบเงินในบัญชีของดาบตำรวจอรรถวุฒิ อดีตตำรวจ สน.คันนายาว ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการ 700,000 บาท ส่วนที่เหลือจะแบ่งให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องประมาณ 10 คน แต่ได้ไม่เท่ากัน ซึ่งขณะนี้ตำรวจติดตามเส้นทางการเงินกลับมาได้ประมาณ 60% แล้ว อยู่ระหว่างไล่ติดตามเงินส่วนที่เหลือต่อ
ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการอีก 6 คนที่ยังพิสูจน์ทราบตัวบุคคลไม่ได้ จึงยังไม่ได้ถูกออกหมายจับนั้น ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นตำรวจหรือเป็นพลเรือนกี่คน ส่วนประเด็นว่าอาจมีผู้หญิงชาวลาว 3 คน ที่เอาเครื่องรูดบัตรเครดิตไปให้กับผู้เสียหายชาวจีน และหลังจากนั้น 8 นาที กลุ่มคนร้ายก็ขึ้นไปรีดทรัพย์ผู้เสียหายบนห้อง
โดยมีการตั้งข้อสงสัยว่าหญิงลาวทั้ง 3 คนจะมีส่วนรู้เห็นกับกลุ่มผู้ต้องหาหรือไม่นั้น พลตำรวจตรีนพศิลป์ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงว่าใครเป็นคนแจ้งจุดที่ผู้เสียหายอยู่ และพิสูจน์ตัวหญิงลาวทั้งหมด ก่อนจะเรียกเข้ามาสอบปากคำด้วย
สำหรับจ่าสิบตำรวจวีรยุทธ ผบ.หมู่จราจร สน.พญาไท ที่ยังหลบหนีหมายจับอยู่ ขณะนี้ได้ประสานผู้บังคับบัญชาและร่วมกันติดตามตัว รวมทั้งประสานครอบครัวของจ่าสิบตำรวจวีรยุทธให้ทราบ และรีบแจ้งเบาะแสกับตำรวจ ซึ่งตำรวจได้เร่งติดตามตัวมานานกว่า 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่พบตัว และยังติดต่อไม่ได้
อีกทั้งตอนนี้ข่าวก็มีการนำเสนอกลายเป็นข่าวใหญ่ไปแล้ว เกรงว่าอาจจะเกิดความเครียด กดดัน ซึ่งตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าตัวจ่าสิบตำรวจวีรยุทธยังอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังไม่พบประวัติการเดินทางออกนอกประเทศ
โดยบรรยากาศที่ สน.ดินแดง ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เช้าวันนี้มีครอบครัวของดาบตำรวจอรรถวุฒิ ซื้ออาหารและน้ำมาเยี่ยมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเตรียมประชุมความคืบหน้าคดีนี้ในเวลา 10.00 น. ที่ห้อง ศปก. สน.ดินแดง จากนั้นในวันพรุ่งนี้ก็จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังต่อศาลอาญาต่อไป
อ่านข่าวอื่นๆ:
กทม.สั่งระงับสร้างบ่อพักเกาะกลางลาดพร้าว 49 ขีดเส้น 3 วันทำฝาท่อมาตรฐาน
ตะลึง! แท่นผลิตยาบ้าย่อไซส์-ของกลาง 4 ล้านเม็ดเมืองสุพรรณฯ
พบอีกจุด ท่อไม่มีฝาปิดย่านลาดพร้าว 87 ห่างจุดชายตกท่อ 4 กม.
<< Previous Next >>
Sat, 4 May 2024 08:34:36
วันนี้ (4 พ.ค.2567) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำนักการโยธา ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ กท 0902/1296 ถึงผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ขอให้ระงับการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว - สำโรง)ซึ่งเป็นจุดที่พบประชาชนพลัดตกลงไปในบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินเสียชีวิต บริเวณเกาะกลางถนนปากซอยลาดพร้าว 49 พื้นที่เขตวังทองหลาง
จากการตรวจสอบพบว่ามีการนำไม้อัดที่มีสภาพชำรุดมาปิดฝาบ่อไว้ ไม่เรียบร้อย และปัจจุบันบ่อพักในโครงการดังกล่าวยังไม่มีการปิดฝาบ่อให้เรียบร้อยถูกต้องตามมาตรฐานจำนวนหลายจุด จึงให้ตรวจสอบและปิดฝาบ่อในโครงการดังกล่าวให้เรียบร้อยถูกต้องตามมาตรฐาน ภายใน 3 วัน หลังจากได้รับหนังสือฉบับนี้
พร้อมทั้งขอให้การไฟฟ้านครหลวงติดต่อประสานญาติผู้เสียชีวิตเพื่อเยียวยาค่าเสียหายเนื่องจากการปฏิบัติงานด้วยความประมาทเลินเล่อ ไม่เป็นไปตามคู่มือก่อสร้างงานสาธารณูปโภคและเงื่อนไขในหนังสืออนุญาต
หากไม่ดำเนินการกรุงเทพมหานครจะขอระงับการพิจารณาอนุญาตงานรายถัดไปของการไฟฟ้านครหลวงที่ยื่นขออนุญาตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยให้แจ้งผลการดำเนินงานให้สำนักการโยธาทราบต่อไป
ล่าสุด การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้แก้ไขปิดฝาบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินชั่วคราวด้วยคอนกรีตแล้วเสร็จ จากเหตุลักลอบขโมยฝาบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ซ.ลาดพร้าว 49 โดยเร่งให้ผู้รับจ้างดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม กฟน.จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่ลักลอบขโมยฝาบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินถาวร (ฝาเหล็ก) โดยจะประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพิ่มเติมในพื้นที่การดำเนินโครงการที่มีความเสี่ยง และครอบคลุมพื้นที่ให้บริการของ MEA กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชน
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง:
พบอีกจุด ท่อไม่มีฝาปิดย่านลาดพร้าว 87 ห่างจุดชายตกท่อ 4 กม.
ชายตกท่อลึก 15 เมตร เสียชีวิต พบฝาท่อเป็นเพียงไม้อัด
<< Previous